วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Mask Layer

Mask คล้ายกับแผ่นกระดาษทึบที่นำมาเจาะช่องเพื่อให้มองเห็นผ่านทางช่องนั้น เมื่อเรานำ Mask Layer ไปวางทับบนชิ้นงาน ก็จะทำให้เห็นชิ้นงานเฉพาะในช่องที่เจาะไว้เท่านั้น งานนี้จะผสมระหว่าง Motion กับ Mask

ขั้นตอนการทำ Mask Layer มีดังนี้

1.ดึงรูปเข้ามาที่ Stage (File > Import > Import to Stage หรือ Ctrl + R) วางที่ตำแหน่งใดก็ได้ตั้งชื่อ Layer รูปตามใจชอบ


2.ทำการ Insert Layer ใหม่แล้วตั้งชื่อว่า Mask (การ Insert Layer ดูตามรูปได้เลยครับ)


3.คลิกที่ Layer Mask แล้วสร้างรูปทรงที่ต้องการ (ในรูปผมสร้างเป็นวงกลมนะครับ)


4.หลังจากได้รูปทรงที่ต้องการแล้ว ให้ดับเบิ้ลคลิกที่มุมของ Layer Mask จะมีหน้าต่าง Layer Properties ขึ้นมา ที่ตัวเลือก Type ให้เปลี่ยนจาก Normol เป็น Mask แล้วคลิก OK Layer Mask จะมีคุณสมบัติเป็น Mask ทันที


5.เมื่อเรากำหนด Layer Mask แล้วเราก็ต้องมากำหนดที่ Layer ที่เป็นรูปของเรา โดยการดับเบิ้ลคลิกที่มุมของ Layer รูปเหมือนกับการทำที่ Layer Mask แต่จะเปลี่ยนจาก Normol เป็น Masked แล้วคลิก OK


6.เมื่อทำตามครบทุกขั้นตอนแล้วให้ลองดูผลงานที่เกิดขึ้นโดยการกด Ctrl + Enter จะได้ดังนี้


ก่อนทำการ Mask Layer


หลังทำการ Mask Layer

หลังจากที่เราทำ Mask Layer ได้แล้วก็เรียนรู้เรื่อง Motion Tween อีกเล็กน้อยเราก็จะสามารถทำ Animation น่ารักๆในสไตเราได้อย่างไม่ยาก ผมมีตัวอย่างเล็กน้อยมาให้ดูกันนะครับ

สอบ

2.จงวิเคราะห์และเปรียบเทียบลักษณะและความแตกต่างข้อดีข้อเสียและก็จุดเด่นจุดด้อย รวมทั้งปัญหาของ animation แต่ละประเภทในประเทศไทย

Animation ในไทยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ 2Dและ3D มีความแตกต่างกันดังต่อไปนี้
การสร้างตัวละคร 2มิติ จะสร้างตัวละครโดยวาดเป็นรูปๆแล้วต้องเอามาลงสีไล่ไปทีละภาพทั้งๆที่เป็นตัวเดียวกันก็ตาม แต่ใน 3มิติ นั้นเราสร้างตัวละครและพื้นผิวของตัวละครขึ้นมาเพียงครั้งเดียว แล้วก็สามารถใช้ได้ทั้งหนังทุกเฟรม. แต่ว่า 2มิติ นั้นการเปลียนแปรงตัวละครไม่ว่าหน้าตาหรือรูปร่างจะง่ายกว่า 3มิติในด้าน รูปร่างไม่คงที่ เพราะว่า แค่วาดเปลี่ยน แต่ 3มิติต้อง ปั้นตัวละครใหม่ หรืออีกวิธีที่ง่ายขึ้นคือปรับเปรี่ยนพื้นผิวของตัวละคร ในทางกลับกัน ถ้าตัวละครที่มีรายระเอียดเยอะ 3มิติจะได้เปรียบกว่ามากเพราะทำพื้นผิวเพียงครั้งเดียว.

การเคลื่อนใหว ในงาน 2 ดีนั้นเวลาจะทำก็ต้องวาดแล้วเอาภาพมาเรียงต่อกันเรื่อยๆ แต่ ในงาน 3ดี เราทำตัวละครแล้วเอามาเคลื่อนที่โดยแค่จัดเฟรมแรกแล้วเฟรมสุดท้ายที่เหลือ คอมจะจัดการสร้างเอง รวมไปถึงการเคลื่อนใหวของตัวละคร.

มุมมอง งาน 3ดี นั้น พอเราจัดท่าตัวละครแล้วเร้ต้องสร้างกล้องขึ้นมาเพื่อหามุมมองของภาพหรือหนัง(เหมือนถ่ายกล้องจริงๆ) แต่ใน 2ดี นั้นเอาสร้างมุมมองตอนวาดเลย (คือทำในขั้นตอนเดียวกับการวาดเคลื่อนใหวนั่นแหละ) แต่ตรงนี้ต้องใช้ประสบการ์ณในการวาดเยอะพอสมควร ไม่เช่นนั้นจะวาดเพี้ยนได้.

ความสมจริง อันนี้ 3มิติ กินขาด เพราะการจัดแสงมุมมอง ยังไงมือวาดก็ยังไม่เท่าเทียมได้ งาน 3มิติ ถึงนำไปใช้ในวงการภาพยนต์ค่อนข้างมากกว่างาน 2มิติ.

การประมวลผล 2มิติ นั้นจะทำการประมวลผลได้เร็วกว่ามากถึงจะมีการแต่งแสงเข้ามาร่วมด้วย(ทั้งนี้คือการแต่งสีฟิลม์นั่นเอง). แต่ 3มิติ จะประมวลผลออกมาเป็นภาพๆ ซึ่ง 1 ภาพจะต้องคำนวนเรื่องแสง มุมกล้องความลึกของวัตถุ ตรงนี้ทำให้งาน 3ดี จะช้ามาก ซึ่งบางทีแค่ 1 ภาพก็ใช่เวลาประมวลผลเกินกว่า 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว(ใช้คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง) แต่งานก็จะออกมาสวยเช่นกัน.

ปัญหา Animation ในประเทศไทย
หลังจากได้ชมภาพยนตร์แอนิเมชั่นและฝีมือการทำคอมพิวเตอร์กราฟิกหรือ CG ฝีมือคนไทยผ่านทางจอเงินและจอแก้วเรื่องแล้วเรื่องเล่าไม่ว่าจะเป็น ก้านกล้วย ปังปอนด์ สุดสาคร ฯลฯ รวมถึงเกมออนไลน์สัญชาติไทยหลายต่อหลายเกม ไม่นับงานเอาท์ซอร์สจากต่างประเทศอีกมากมาย ประกอบกับผลงานในเวทีประชันฝีมือต่างๆ ที่งัดเอาความสามารถของคลื่นลูกใหม่ทั้งในรั้วมหาวิทยาลัยและ
โรงเรียนมาแสดงให้เห็นแล้ว คงเป็นที่ยอมรับว่าแอนิเมชั่นไม่ใช่เรื่องไกลตัว และนับวันผลงานเหล่านี้จะยิ่งเปี่ยมด้วยคุณภาพมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านเทคนิค
หรือความคิดสร้างสรรค์
หากหลายต่อหลายครั้งอีกเช่นกันที่คนในแวดวงแอนิเมชั่นรวมทั้ง
ผู้ติดตามสถานการณ์รอบนอกหาโอกาสมานั่งจับเข่าคุยกันว่า ทุกวันนี้สถานการณ์อุตสาหกรรมนี้ประสบปัญหาใด และอนาคตสดใสที่เคยวาดฝันกันว่าในอนาคตอันใกล้จะเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่เติบโต ทำเงิน และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาตินั้นใกล้เข้ามาหรือยัง
“คน” เป็นปัจจัยสำคัญประการแรกที่ทุกวงการให้ความสำคัญ ในส่วนนี้ อาจารย์ไมเคิล ปริพล ตั้งตรงจิต คณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ในฐานะเบ้าหลอมบุคลากรป้อนเข้าสู่อุตสาหกรรม ให้มุมมองในภาพรวมว่า ปัจจุบันพัฒนาการแอนิเมชั่นของไทยดีขึ้นมาก เห็นได้ว่าฝีมือของคนไทยก้าวหน้าขึ้น พร้อมกับที่หลายมหาวิทยาลัยก็เริ่มให้ความสำคัญกับแอนิเมชั่น โดยเปิดเป็นสาขาหรือวิชาเรียนเพิ่ม ตัวอาจารย์ผู้สอนก็มีความเชี่ยวชาญและมีการดึงบุคลากรจากต่างชาติเข้ามา ทำให้พัฒนาการในส่วนของบุคลากรเป็นไปอย่างรวดเร็ว

“สิ่งที่ลำบากก็คือ ในช่วงต้น ภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งสื่อทั่วไปยังไม่คุ้นกับแอนิเมชั่น บุคลากรที่มีความสามารถจึงทำงานได้ยาก และไม่มีช่องทางในการนำเสนอ แต่ขณะนี้กลับตรงกันข้าม ทุกสื่อเปิดรับแอนิเมชั่นจึงกลายเป็นว่าสถานการณ์ตอนนี้คือขาดคน แต่ก็เชื่อว่าอีก 1-2 ปี จะมีทรัพยากรบุคคลเข้าไปในตลาดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าแอนิเมชั่นไทยจะโกอินเตอร์ได้ในทันทีทันใด เพราะต้องอาศัยเวลาสักระยะหนึ่ง” คณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวเสริม

จากความคิดเห็นของนักวิชาการประกอบกับ “ฝีมือ” ที่สัมผัสได้จากผลงานในปัจจุบันของแอนิเมเตอร์คนไทย คงพอจะสรุปได้ว่า น่าจะเบาใจในเรื่องของทรัพยากรบุคคลได้ในระดับหนึ่ง แต่ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทั้งระบบนั้นคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง
เพียงประการเดียว
นายธนพงษ์ ณ ระนอง รองผู้อำนวยการส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ ซิป้า กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะองค์กรเจ้าภาพจากทางภาครัฐที่ทำหน้าที่สนับสนุน
อุตสาหกรรมแอนิเมชั่นไทยให้ข้อมูลว่า จุดอ่อนของแอนิเมชั่นไทยก็คือตลาดยังไม่ค่อยกว้าง รู้จักต่างประเทศน้อย ด้านบริษัทเล็กๆ ก็ขาดต้นทุนการผลิต
ดังนั้น ซิป้า จึงเข้ามาส่งเสริมด้านการตลาดและหาแหล่งงานป้อนเข้าอุตสาหกรรมแอนิเมชั่น เช่น การหาเวทีหรือช่องทางจับมือกับต่างชาติที่เป็นผู้ซื้อ หรือ เป็นแหล่งผลิตงานแอนิเมชั่นให้คนไทยได้มีโอกาสแสดงผลงาน อันจะนำไปสู่ความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างผู้ผลิตในไทยกับต่างประเทศ โดยขณะนี้ ซิป้ามีความร่วมมือในลักษณะดังกล่าวในหลายประเทศ อาทิ เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย นิวซีแลนด์ และล่าสุด คือ ประเทศฝรั่งเศส



3.จงยกตัวอย่างภาพยนต์ animation ของไทยมา 1 เรื่อง และอธิบายถึงแนวคิดภาพยนต์ รูปแบบ เทคนิคที่ใช้ รวมทั้งลักษณะการสร้างผลงานมาพอสังเขป

APAIMANEE SAGA ที่สุดของความภาคภูมิใจแห่งวงการการ์ตูนไทย




อภัยมณี ซาก้า เป็นการ์ตูนไทย แนวผจญภัยผสมแฟนตาซี โครงเรื่องหลักเอามาจากวรรณคดีไทยเรื่องพระอภัยมณีของสุนทรภู่ แต่ได้ถูกแต่งเพิ่มเติมตามจินตนาการของผู้วาดเข้าไป เช่น ตัวมอนสเตอร์,ปีศาจ ได้ตีพิมพ์เป็นตอนลงในนิตยสารบูม ภายใต้ลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเป็นของสำนักพิมพ์เนชั่นเอ็ดดูเทนเมนท์ นอกจากนี้อภัยมณี ซาก้ายังเป็นการ์ตูนไทยเรื่องแรกที่ได้จำหน่ายยังต่างประเทศอีกด้วย

เรื่องย่อ




ณ นครรัตนา มีเจ้าชายรัชทายาทสององค์ คือ เจ้าชายอภัยมณี รัชทายาทอันดับหนึ่ง อายุ 17 ปี และเจ้าชายศรีสุวรรณ รัชทายาทอันดับสองผู้เป็นน้องชาย อายุ 16 ปี เจ้าชายอภัยมณีรักอิสระ มีความฝันอยากจะท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง ส่วนเจ้าชายศรีสุวรรณ เป็นผู้คลั่งไคล้ในวิชากระบอง

วันหนึ่ง ขณะที่เจ้าชายทั้งสองเที่ยวเล่นอยู่นอกวัง ก็พบว่าในวังเกิดไฟไหม้ จึงรีบกลับมาดู ก็พบว่ามีผู้คิดลอบปลงพระชนม์พระบิดา และช่วยกันลงมือคลี่คลายสถานการณ์ลงไปได้ ผู้ลอบปลงพระชนม์นี้เป็น Gem sorcerer หรือ จอมเวทอัญมณี ซึ่งตามเนื้อเรื่องกล่าวว่า Gem sorcerer เป็นจอมเวทที่เน้นใช้พลังจากอัญมณี โดยจะฝังอัญมณีเอาไว้ในร่างตั้งแต่เด็ก และใช้อัญมณีนี้เป็นต้นกำเนิดพลังเวทมนตร์ทั้งหมดของตน พระราชาตระหนักดีว่าคนที่ลอบปลงพระชนม์นี้เป็นแค่ลูกกระจ๊อก ถูกเขาส่งมาหยั่งเชิง อัญมณีที่ใช้ก็เป็นแค่ระดับต่ำ และทราบว่านับแต่นี้หายนะกำลังเริ่มต้น จึงออกคำสั่งเป็นคำขาดให้โอรสทั้งสองออกจากนครไปศึกษาวิชาความรู้ยังตักกศิลาเป็นเวลา 2 ปี เพื่อไม่ให้เจ้าชายทั้งสองพลอยซวยไปด้วย

เจ้าชายทั้งสองก็ออกเดินทางไปศึกษาตามคำสั่งโดยไม่เอะใจ เมื่อครบกำหนดสองปี ก็เดินทางกลับมายังนครรัตนาอีกครั้ง เพื่อจะพบว่านครรัตนาใกล้พินาศแล้ว เพราะโดนทหารต่างชาติกองทัพของ Gem sorcerer โจมตี เจ้าชายทั้งสองได้พบกับทหารรับจ้างที่พระราชาบิดาของพวกตนจ้างวานมา (พระราชาสวรรคตไปแล้ว) เจ้าชายศรีสุวรรณผู้มีวิชาต่อสู้ได้ร่วมมือกันต่อสู้ขับไล่พวกทหารต่างชาติออกจากนครไป พระอภัยมณีที่สู้ไม่เป็นเลยอยู่ให้กำลังใจอยู่กลางวง

ฝ่ายศัตรูมีกำลังคนมากเกินไป จนทั้งสี่เริ่มรับมือไม่ไหว ทำให้พระอภัยมณีตัดสินใจใช้วิชาปี่ที่เรียนมา โดยเตือนให้พรรคพวกทั้งสี่ละวางจิตสังหารเสีย แล้วเริ่มเป่าปี่ชักนำทหารศัตรูที่มีจิตสังหารทุกคนให้ฆ่าฟันกันเองจนล้มตาย หลังศัตรูตายหมดแล้ว ก่อนที่สามทหารรับจ้างและศรีสุวรรณจะฟื้นจากภวังค์เพลงปี่ นางผีเสื้อสมุทรก็ปรากฏกายขึ้นพาพระอภัยจากไป

ตัวละคร




อภัยมณี
รัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งนครรัตนา พระโอรสในท้าวสุทัศน์กับพระนางประทุมเกสร มีวิชาติดตัวคือเพลงปี่ เคยถูกคุมขังอยู่ในคุกสมุทร และได้รับการช่วยเหลือจากเผ่าเงือก



ศรีสุวรรณ
รัชทายาทรองแห่งนครรัตนา พระอนุชาแท้ๆ ของอภัยมณี มีวิชาต่อสู้คือพลอง เคยร่วมมือต่อต้านกองทัพของท้าวอุเทน และกำจัดท้าวอุเทน

ท้าวสุทัศน์
กษัตริย์แห่งนครรัตนา พระบิดาของอภัยมณีกับศรีสุวรรณ เป็นอดีตนักดาบ

พระนางประทุมเกสร
พระมเหสีในท้าวสุทัศน์ สิ้นพระชนม์ตั้งแต่อภัยมณีกับศรีสุวรณยังเล็ก ปรากฏในเล่มที่ 12 ตอนในอ้อมอกแม่ และเล่มที่ 15

วิเชียร
น้องชายเล็กในกลุ่มสามพราหมณ์ เป็นนักรบที่ใช้อาวุธ "ระเบิด" ที่สร้างขึ้นเอง ไม่ถูกกับศรีสุวรรณ เป็นมือสังหาร สามารถยิงธนูได้ทีละ 7 ดอก

โมรา
พี่ชายคนรองในกลุมสามพราหมณ์ มีความเฉลียวฉลาด และสุขุมเยือกเย็นที่สุด ใช้เวทมนตร์สายไม้ และเสกเรือได้ เป็นศิษย์เก่าของมาสเตอร์หยาง

สานน
พี่ชายคนโตในกลุ่มสามพราหมณ์ ใช้เวทมนตร์สายน้ำ เป็นอดีตนักเรียนสำนัก Dark Moon

ท้าวทศวงศ์
พระบิดาของแก้วเกษรา กษัตริย์แห่งนครโรมจักร

ท้าวอุเทน
ผู้หมายปองแก้วเกษรา เพราะรูปร่างหน้าตาเหมือนกับ "จิตรา" หญิงคนรักในอดีตถูกสังหารด้วยน้ำมือของตนเองในขณะใช้เวทย์อัญมณี เป็นคนใจร้อน และยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ


แก้วเกษรา
องค์หญิงแห่งนครโรมจักร เป็นคนรักของศรีสุวรรณ และเป็นที่หมายปองของท้าวอุเทน

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สอบ

1.จงอธิบายถึงที่มา ความหมายและประเภทของ Animation พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ

เมื่อประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตกาลได้มีการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณที่อียิปต์ เป็นภาพของนักมวยปล้ำสองคนต่อสู้กัน เป็นเหมือนภาพที่แสดงการเคลื่อนไหวหลายๆภาพต่อๆกัน ต่อมาได้พบถาพที่แสดงถึงการเคลื่อนไหว จากผลงานภาพวาดของศิลปินเอกระดับโลกชื่อ ลีโอนาโด ดาวินชี เป็นภาพที่แสดงของเขตการเคลื่อนไหวของแขนและขาของมนุษย์ ส่วนทางด้านตะวันออก ชาวญี่ปุ่นโบราณนิยมใช้ม้วนกระดาษแสดงเรื่องราวต่างๆที่ต่อเนื่องกัน


จากนั้นปี ค.ศ.1824 ทฤษฎีเรื่องภาพติดตาของมนุษย์ก็เกิดขึ้น โดย John Ayrton Paris นายแพทย์ชาวอังกฤษ ได้ประดิษฐ์เครื่องมือที่เรียกว่า ธัมมาโทรป มีลักษณะเป็นแผ่นกลมๆ ด้านหนึ่งเป็นรูปนก ส่วนอีกด้านเป็นรูปกรงนกเปล่าๆ แล้วนำแต่ละด้านผูกไว้กับเชือกหรือติดกับแกนไม้ เมื่อทำการหมุนด้วยความเร็วสูง จะเห็นว่านกเข้าไปอยู่ในกรง และหลังจากปี ค.ศ.1892 โธมัส อัลวา เอดิสัน ได้ประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพยนตร์และเครื่องฉายภาพ พร้อมๆกับบริษัทอีสท์แมนได้ปรับปรุงคุณภาพของฟิลม์ ภาพยนตร์ก็เป็นจริงขึ้นมา จนถึงศตวรรษที่ 20 การพัฒนาเทคนิคทางภาพยนตร์ก็แบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือการสร้างภาพยนตร์ที่อาศัยตัวแสดง ฉาก และกล้องบันทึกภาพที่เคลื่อนที่ไปได้ จนพัฒนากลายเป็นการแสดงที่เป็นไปตามธรรมชาติ และใช้กล้องบันทึกภาพไปอย่างต่อเนื่อง หรือเรียกว่า ไลฟ์ แอคชั่น ซีนีม่า ส่วนการสร้างภาพยนตร์อีกแนวทางหนึ่งจะอาศัยการวาด ฉาก และกล้องที่ตั้งอยู่กับที่เพื่อบันทึกภาพทีละภาพ จนกลายเป็นการพัฒนาของภาพยนตร์แอนิเมชั่นในปัจจุบัน


Animation เกิดขึ้นจากการแสดงภาพอย่างเร็ว ของชุดภาพนิ่งแบบสองมิติ(2D) หรือ เกิดจากการเปลี่ยนตำแหน่งของวัตถุ ที่เราอยากให้เคลื่อนที่ โดยใช้หลักภาพลวงตา ให้ดูเหมือนว่าภาพนิ่งเหล่านั้น มีการเคลื่อนไหว จากหลักการมองเห็นภาพติดตาของคนเรานั่นเองครับ โดย Animation เกิดจากหลายองค์ประกอบรวมตัวกัน โดยหนึ่งในหัวใจของ Animation นั้น คือการ animate
การ animate แปลกันอย่างตรงตัว ก็คือการเคลื่อนไหว ให้ชีวิต กับสิ่งต่างๆ ที่ยังไม่มีการเคลื่อนไหว หรือที่เรามักเรียกติดปากกันว่า ภาพ Still / ภาพนิ่ง ดังนั้น เหล่า Animator ก็คือผู้ให้ชีวิตนั่นเอง

Animation นั้น มีด้วยกันหลายประเภท แต่ในที่นี้ ขอกล่าวถึง3ประเภทที่พบเห็นกันทั่วไป ได้แก่

1. Traditional Animation / Hand Drawing Animation / 2D Animation : เป็นงานแอนิเมชั่นสมัยแรกเริ่ม มักจะใช้การวาดด้วยมือ
งานประเภทนี้ พบเห็นได้ทั่วไป ในการทำ Animation ยุคแรกๆ โดยใช้เทคนิคการวาดด้วยมือ ทีละแผ่น แล้วใช้วิธี Flip เพื่อตรวจดูท่าทางของตัวละครที่เราได้ทำการ animate ไปแล้ว หรือที่เราเรียกกันว่า In Between (IB)

โดยทั่วไปแล้ว ในงาน Animation แบบนี้ ถ้าเป็นงาน Animation จากฝั่งตะวันตก หรือ เป็นหนังโรง จะกำหนดให้ 1 วินาที ใช้รูป 24 เฟรม แต่ถ้าเป็นพวกซีรี่ย์การ์ตูนญี่ปุ่น จะกำหนดไว้ที่ 1 วินาที ใช้รูป 12 เฟรม หรือ อาจมากกว่านั้น

2. Stop-motion หรือ Clay Animation : งานแอนิเมชั่นประเภทนี้ animator จะต้องเข้าไปทำการเคลื่อนไหวโดยตรงกับโมเดล และทำการถ่ายภาพเอาไว้ทีละเฟรมๆ
การทำ Stop Motion ถือเป็นเรื่องยากพอสมควร เพราะ ต้องแม่นในเรื่องของ Timing และ Pose มากๆ แม้การทำจะไม่ต้องอาศัยการวาดรูปเป็นหลัก แต่ก็ต้องทำ IB เองทั้งหมดด้วยมือ การทำ IB ในงาน Animation ประเภทนี้ ต้องอาศัยความชำนาญในการคำนวนล่วงหน้า เพราะ ถึงแม้จะมีอุปกรณ์ต่างๆ ช่วยในการ Flip แล้วก็ตาม ( เช่น โปรแกรมต่างๆ ที่ช่วยในการ Capture รูป แล้ว Play ดูได้ทันที ) แต่การจัดแสง และการควบคุมความต่อเนื่องระหว่างเฟรม ต้องอาศัยความรอบคอบ และความอดทนสูงมาก บางทีทำกันหลายวันหลายคืนไม่ได้พักเลยก็มี ดังนั้น Animator ของงานประเภทนี้ นอกจากจะต้องมีความชำนาญแล้ว ควรจะมีสุขภาพแข็งแรงด้วยก็ดีนะครับ


3. Computer Animation / 2D Animation on computer / 3D Animation : เป็นงานแอนิเมชั่น ที่มักพบกันได้บ่อยในยุคปัจจุบัน เนื่องจากการเข้าถึงโปรแกรมเป็นไปได้ง่าย และการนำหลักการแบบ 2D เข้ามาผสมผสานกับตัวโปรแกรม ทำให้เข้าใจได้ง่าย แถมยังสะดวกในการแก้ไข และแสดงผล จึงเป็นที่นิยมกันมาก
Animator ในงานประเภทนี้ จึงมีเกิดขึ้นมาในยุคปัจจุบันอย่างมากมาย พร้อมด้วยความต้องการ ของวงการบันเทิงในยุคนี้ ที่เน้นการทำ CG Animation มากขึ้น ดูได้จากเมืองไทย ที่มีสถาบันสอนการทำ Animation เกิดขึ้นอย่างมากมาย และ Studio ที่ทำงาน Animation ในบ้านเราก็มีมากขึ้น เราจะเห็นได้ว่า งานต่างๆในวงการบันเทิงไทย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ภาพยนตร์โฆษณา การ์ตูนซีรี่ย์ ต่างๆ ล้วนล้วนแต่ มีงาน CG Animatoin แฝงอยู่ด้วยแทบทั้งนั้น เรียกได้ว่า เมืองไทยตอนนี้ มีความตื่นตัวในกระแส Animation เป็นอย่างมากเลยทีเดียว